1 2 3 4 5 6 7 |
ภายในวิหารสมเด็จองค์ปฐม วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๓๕ เป็นวันวิสาขบูชา หลวงพ่อได้กระทำพิธี ๓ อย่างในวันเดียวกันคือ
ตอนเช้า เวลา ๗.๐๐ น. หลวงพ่อทำพิธีบวงสรวงที่วิหารสมเด็จองค์ปฐม หลังจากนั้นท่านได้เดินขึ้นไปบนวิหารเพื่ออัญเชิญพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม ขึ้นประดิษฐานบนแท่นภายในวิหาร เมื่อเห็นว่าช่างได้ยก
พระขึ้นบนแท่นเรียบร้อยแล้วท่านจึงเดินลงไปจากวิหาร ท่ามกลางผู้ที่มาร่วมพิธีมากมาย
| |
พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม งานนี้เป็นงานทำบุญประจำปีที่หลวงพ่อเคยจัดมา ถึงแม้ท่านจะมรณภาพไปแล้วก็ตาม ท่านพระครูปลัดอนันต์ พทธฺญาโณ เจ้าอาวาสองค์ใหม่ พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ภายในวัดท่าซุง และ ญาติโยม พุทธบริษัท ได้ร่วมกันจัดงานเหมือนสมัยที่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ โดยอาราธนาสมเด็จพระราชาคณะ รองสมเด็จพระราชาคณะ และ พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด จำนวน ๖๔ รูป ฉัน ภัตตาหารเพลที่ศาลา ๒ ไร่
วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๓๖ เป็นวันเริ่มงาน ทางวัดได้จัดเตรียมสภานที่ไว้ที่วิหาร ๑๐๐ เมตร สำหรับญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย จะได้สรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐม ( จำนวน ๒ องค์
ที่เสด็จมาเองในห้องนอนหลวงพ่อ ) ก่อนที่จะอัญเชิญไว้ในพระเกตุมาลาพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม | |
วันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๓๖หลังจากฉันภัตตาหารและถวายเครื่องไทยทาน พระสงฆ์ให้พร เป็นเสร็จพิธีที่ศาลา ๒ ไร่แล้วเจ้าประคุณ
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา เดินทางไปที่วิหาร ๑๐๐ เมตร หลังจากญาติโยมได้สรงน้ำพระบรมธาตุกันแล้ว เมื่อได้เวลาอันสมควร ( เดิมจะเริ่มพิธีเวลา ๑๔.๐๐ น. แต่เจ้าประคุณสมเด็จฯ
มีกิจนิมนต์ที่ จ.นครปฐม จำเป็นจะต้องเลื่อนเวลาให้เร็วขึ้นกว่าเดิม จึงต้องขออภัยญาติโยมในวันนั้นด้วย ) ในเวลา ๑๒.๑๕ น. ท่านพระครูปลัดอนันต์ พทธฺญาโณ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐมเพื่ออาราธนาเจ้าประคุณสมเด็จฯ บรรจุไว้ในผอบทองคำ ในขณะทำพิธีบรรจุนั้น พระสงฆ์จำนวน ๙ รูปสวดชยันโต เมื่อบรรจุ ในผอบทองคำแล้ว จึงนำไปวางไว้ในเจดีย์แก้วอีกชั้นหนึ่ง เสร็จแล้วท่านเจ้าอาวาสพร้อมด้วยพระสงฆ์ และท่านสาธุชนทั้งหลาย ได้ร่วมขบวนแห่พระบรมสารีริกธาตุไปยังวิหารสมเด็จองค์ปฐม โดยมีวงโยธวาทิต โรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา นำขบวน เวลา ๑๒.๔๐ น. ขบวนแห่ไปถึงแล้ว พระสงฆ์ก็ขึ้นไปนั่งข้างในด้านซ้ายมือของวิหาร ส่วนญาติโยมนั่งอยู่ด้านตรงข้ามและนั่งรอกันแน่นวิหาร ก่อนที่ขบวนแห่จะมาถึงด้วยซ้ำไป ท่านที่มาภายหลัง จึงต้องไปนั่ง อยู่ภายในเต๊นท์ข้างวิหาร เวลา ๑๒.๔๕ น. เจ้าประคุณสมเด็จฯ เดินทางมาถึงวิหารสมเด็จองค์ปฐม ท่านเจ้าอาวาสส่งเทียนชนวนให้เจ้าประคุณสมเด็จฯ จุดธูปเทียนบูชาที่โต๊ะหมู่บูชา เมื่อกราบนมัสการแล้ว ท่านก็มานั่งเก้าอี้รับแขกที่จัดไว้ แล้วท่านก็พูดขึ้นว่า " พระองค์นี้มีลาภมากนะ" และท่านกล่าวชมอีกว่า "สร้างได้สวยงามมาก เสียดายที่จะต้องรีบไป อยากจะอยู่นาน ๆ กว่านี้อีก ต่อไปคงจะมีโอกาสได้มาชมอีก" หลังจากนั้น พระชัยวัฒน์ อชิโต ได้อัญเชิญพระเกตุมาลาของพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพานทองอันวางรอไว้อยู่ที่บนชั้นสูงสุดของโต๊ะหมู่บูชา เมื่อมาถึงแล้ว ท่านพระครูปลัดอนันต์ กราบอาราธนาเจ้าประคุณสมเด็จฯ อัญเชิญผอบทองคำที่บรรจุพระบรมธาตุของสมเด็จองค์ปฐมจำนวน ๒ องค์ บรรจุไว้ในผอบทองเหลืองก่อน แล้วจึงนำไปใส่ไว้ในพระเกตุมาลานั้น พระสงฆ์ ๙ รูป สวดชยันโต |
เสร็จแล้วท่านพระครูปลัดอนันต์ กราบอาราธนาเจ้าประคุณสมเด็จฯ ขึ้นไปสวมไว้บนพระเศียร ท่านแหงนดูบันไดที่เตรียมไว้ด้านหน้าองค์พระนั้นแล้ว ท่านบอกขึ้นไม่ไหว จึงมีบัญชาให้ท่านเจ้าอาวาสนำขึ้นไปแทน
โดยท่านยกมือทั้งสองขึ้นพนมอธิษฐานเสียก่อน ในระหว่างเดินขึ้นไปบนบันไดนั้น พระชัยวัฒน์ เป็นผู้อัญเชิญพานทองพระเกตุมาลาเพื่อให้ท่านพระครูปลัดอนันต์ได้ทำพิธีสวมไว้บนพระเศียร ขณะขึ้นไปสวมนั้น
พระสงฆ์สวดชยันโตเป็นเสร็จพิธี
เมื่อใกล้เวลา ๑๓.๐๐ น. อันเป็นเวลาที่ท่านจะต้องเดินทางกลับ พระสงฆ์วัดท่าซุงได้เข้ามากราบนมัสการ เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ให้โอวาทสั้น ๆ ว่า ขอให้ช่วยกันดูแลรักษาสมบัติของพระศาสนาไว้ให้ดี ให้มี
ความสามัคคีต่อกันไว้ดังนี้ พวกเราได้ฟังขณะนั้นแล้ว แทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ปลื้มใจที่พระผู้ใหญ่ให้ความเมตตาปรานี ท่านมีความห่วงใยต่อวัดของเราจริง ๆ ถึงกับพลั้งปากออกไปเบา ๆ ว่า พวกเราจะพยายาม
ช่วยกันรักษาไว้ด้วยชีวิตเลยครับ ... !
ก่อนที่จะกลับท่านก็บอกว่า ผมขอไปกราบพ่อก่อน แล้วท่านได้เข้าไปกราบยังหน้าโต๊ะหมู่บูชานั้น ในระหว่างที่ท่านเดินลงจากวิหาร บรรดาลูกหลานหลวงพ่อทั้งหลาย ต่างก็ถวายปัจจัยใส่ย่าม ตามธรรมเนียม
ที่เคยประพฤติมา จนกระทั่งท่านเดินไปถึงรถก็ยังทำบุญกันไม่ขาดสาย แล้วท่านได้มอบปัจจัยทั้งหมดให้เจ้าอาวาส เพื่อไว้ใช้จ่ายในงานนี้ต่อไป หลังจากเจ้าประคุณสมเด็จฯ กลับแล้ว ญาติโยมพุทธบริษัทและลูกหลาน
ของหลวงพ่อ ต่างก็ทยอยขึ้นไปทำบุญและถวายเครื่องประดับ เช่น สร้อย แหวน ของมีค่าต่าง ๆ มากมาย โดยบรรจุไว้ในแท่นที่ประทับสมเด็จองค์ปฐม เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาไว้เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนาต่อไป
ทั้งนี้ เพราะทุกคนมุ่งหวังอานิสงส์ใหญ่ คือ การไม่กลับมาเกิดอีกต่อไป ตามสิทธิ์ที่จะได้ใน "บัญชีทอง" และได้ทราบว่า พระศรีอาริย์ เคยมาบอกกับหลวงพ่อว่า
ฉะนั้น พวกที่ไม่ชอบเมาคงจะสบายใจได้ จึงขอให้สมความปรารถนาทุก ๆ ท่านเทอญ..ขอเจริญพร!
ก่อนที่จะจบขอย้ำเตือนความทรงจำของท่านทั้งหลายที่ร่วมกันสร้างพระพุทธรูปสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม พร้อมด้วยวิหารแก้วแห่งนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์
พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวาระมีพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา วันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๓๕
กลับหน้า 6 | Copyright © 2001 by |
Amine | |
15 พ.ค. 2544 20:45:06 |