พิมพ์โดย คุณสมชายและพี่สาว |
ต่อมาเมื่อวันที่ ๑... กรกฎาคม ๒๕๓๕ จิตเริ่มโปร่ง ไข้ลดตัวลง จึงไปเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ประทับ กราบทูลถามท่านว่า
องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดา ทรงตรัสว่า
หลังจากนั้นก็นมัสการทูลถามองค์สมเด็จพระชินวรตามสมควร เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เรื่องของกระแสของจิต ท่านก็ตรัสว่า
ต่อจากนั้นก็กราบทูลองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
องค์สมเด็จพระชินวร คือ พระปฐม ก็ตรัสว่า
พระพุทธเจ้าก็เสด็จ อาตมาก็ตามเสด็จพระพุทธเจ้ามาที่เทวสภา
หลังจากนั้นเทวดากับพรหมทั้งหมดก็กราบ ๓ ครั้ง ไม่ได้กราบอาตมา กราบพระพทุธเจ้า อาตมาก็หับไปหาทางพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ยกมือพนม ท่านก็เทศน์ว่า
ต่อไปองค์พระสมเด็จพระภควันต์ ทรงตรัสว่า
เวลานั้นมีพระมาด้วยหลายองค์
ท่านชี้พระหัตถ์ลง เห็นนรกไฟสว่างจ้าแดงฉานไปหมด
หลังจากนี้ขอให้ท่านทั้งหลายจงทรงศีลให้บริสุทธิ์จะเป็นศีล ๕ ก็ตาม ศีล ๘ ก็ตาม กรรมบถ ๑๐ ก็ตาม ศีล ๑๐ ก็ตาม ศีล ๒๒๗ ก็ตาม
และท่านก็กลับหันหน้าไปหาเทวดา นางฟ้า กับพรหมว่า
ในเมื่อท่านตรัสอย่างนี้แล้ว ก็บอกว่า
เมื่อพระองค์ตรัสเพียงเท่านี้ พระองค์ก็จบ จึงกราบพระองค์ท่านแล้วทูลว่า
หลังจากนั้นก็ตามพระพุทธเจ้าไปนิพพาน ท่านขึ้นไปเข้าบริเวณหน้าประตู เห็นวิมานแพรวพราวระยับ จึงคิดในใจว่า
ท่านสหัมบดีพรหมเข้ามาใกล้ แล้วบอกว่า
ท่านสหัมบดีพรหมก็บอกว่า
หลังจากนั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเฉพาะองค์ปฐมทรงตรัสว่า
ก็ตอบท่านว่า
องค์สมเด็จพระประทีปแก้วก็ตรัสว่า
ท่านหมายความเป็นความสุขของคนอื่นไม่ใช่ความสุขของตัวเอง
หลังจากนั้นท่านก็ลุก พวกเราก็กราบ เทวดากับพรหมก็กราบ และท่านก็จากไป พวกเราก็กลับสถานที่
ปัจฉิมโอวาท | ไปสงเคราะห์ศิษย์ที่สำนักพระยายม | Copyright © 2001 by |
Amine | ||
23 ก.ค. 2547 |