เรื่อง ..
อานิสงส์ของการสร้างพระพุทธรูป

ผู้ถาม :"หลวงพ่อคะ การสร้างพระพุทธรูป กับการถวายปัจจัยอย่างไหนมีอานิสงส์ดีกว่าคะ.?"

หลวงพ่อ :"การสร้างพระพุทธรูปจัดว่าเป็น พุทธบูชา ถ้าในเรื่องกรรมฐานจัดเป็น พุทธานุสสติกรรมฐาน ถ้าตายจากความเป็นคนไป เกิดเป็นเทวดา มีรัศมีกายสว่างไสวมาก ถ้าถวายปัจจัยถวายเป็นของสงฆ์ จัดว่าเป็น พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา จัดเป็น จาคานุสสติกรรมฐาน เกิดมาชาติหน้าก็รวย
การสร้างพระถวาย ด้วยอำนาจพุทธบูชาทำให้มีรัศมีกายมาก เป็นคนสวย ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า

"พุทธบูชา มหาเตชะวันโต" = "การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชอำนาจมาก"

แต่ถ้ามีอำนาจแต่ขาดสตางค์ก็อดตายนะ ใช่ไหม.. แต่ตัวเป็นจอมพลแต่ไม่มีสตางค์ในกระเป๋า แย่นะ...
อีกแบบหนึ่ง มีสตางค์มาก ๆ แต่ขาดอำนาจราชศักดิ์ก็โดนโจรปล้นอีก ฉะนั้นทำมันเสีย 2 อย่างเลยดีไหม..?"

ผู้ถาม : "ดีค่ะ..แต่ได้ยินเขาว่า การสร้างพระพุทธรูปนี่ควรสร้างพระประธานจึงมีบุญมาก"

หลวงพ่อ : " ก็เขียนไว้สิ สร้างพระประธาน องค์เล็กองค์ใหญ่ก็เขียนไว้ ก็เป็นพระพุทธรูปเหมือนกัน เราสร้างแล้วก็ได้บุญแล้ว ใครไปโยนทิ้งก็ซวยเอง"

ผู้ถาม : "ถ้าหากว่าจะย้ายพระประธานไปบูชาเป็นประธานวัดอื่นจะได้ไหมคะ..?"

หลวงพ่อ :"เรื่องของบูชา สำหรับที่วัดนี้ถือว่าเขาถวายมาเพื่อบูชา ตั้งอยู่ที่ใดก็ตามถ้าพระย้ายไปที่อื่นนอกเขตถือว่าย้ายเจดีย์ ทางวินัยท่านปรับ อาบัติ และถ้าของนั้นเขาถวายสงฆ์เขามีเจตนาเฉพาะจุดนั้น ถ้าเราเอาไปถือว่าขโมยของสงฆ์ อันดับแรก เขาลงบัญชีอเวจีไว้ก่อน ของสงฆ์นี่แม้แต่เศษ กระเบื้องถ้านำไปก็ลงบัญชีอเวจีเลย"

ผู้ถาม : "หลวงพ่อเจ้าคะ การสร้างพระพุทธรูป ทำด้วยโลหะกับทำด้วยปูน อย่างไหนจะดีกว่ากันเจ้าคะ..?"

หลวงพ่อ : "ถ้าเป็นเจตนาของฉันนะ ชอบให้ทำด้วยปูนมากกว่าปั้นด้วยปูนแล้วก็ปิดทอง เพราะอะไรรู้ไหม .. เพราะพระปูนไม่มีใครขโมย พระโลหะเผลอหน่อยเดียวคนตัดเศียรแล้วดีไม่ดีเอาไปทั้งองค์ ฉะนั้นปูนดีกว่า มีอานิสงส์เท่ากัน ราคาถูกกว่า ทนทานและรักษาง่ายกว่า"

"การสร้างพระพุทธรูป นี่เป็น พุทธบูชาเป็น พุทธานุสสติ ในกรรมฐาน 40 กอง ท่านบอกว่ากำลัง พุทธานุสสติ เป็นเหตุให้เข้าถึงพระนิพพานได้ง่ายที่สุด ง่ายกว่ากองอื่น ก็เห็นจะจริง เพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านอยู่ที่นิพพานนี่ และท่านก็เป็นต้นตระกูลของพระนิพพาน ใช่ไหม.. ทีนี้ถ้าเราต้องการสร้างให้สวยตามที่เราชอบ เห็นแล้วก็ทำให้จิตใจสดชื่น่ จิตมันก็นึกถึงพระอยู่เสมอ ถ้าจิตนึกถึงพระพุทธรูปองค์นั้นอยู่เสมอก็จัดเป็น พุทธานุสสติกรรมฐาน

ถ้าใจเราเกาะพระพุทธเจ้าเป็นปกติ ตามแล้วลงนรกไม่เป็น ฉะนั้นถ้าหากโยมเห็นว่าพระที่ทำด้วยโลหะสวยกว่า ชอบมากกว่า โยมก็สร้างแบบนั้น"

ผู้ถาม : "หลวงพ่อคะ ถ้าหากว่าเดินไปเช่าตามร้านกับการจ้างเขาหล่อให้แล้วเททองเอง อานิสงส์จะได้เท่ากันไหมคะ?"

หลวงพ่อ :"กุศลน้อยกว่าที่เขาทำสำเร็จแล้ว เพราะว่าเราต้องเหน็ดเหนื่อย ดีไม่ดีหัวเสีย ที่เขาทำเสร็จแล้วน่ะ เราก็เลือกดูเอาตามใจชอบ ใช่ไหมล่ะ วิธีการแบบนั้นไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลยนี่ ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย บางทีไอ้ตัวร้อนตัวเหนื่อยนี่มันตัดเลย

ทำบุญทุกอย่าง ทำให้จิตสบาย กายสบาย อันนี้ถือว่ามีผลสูง ถวายสังฆทานนี่มีค่าสูงมาก การที่นิมนต์พระมาเลี้ยงข้าวที่บ้าน 4 - 5 องค์ อานิสงส์เป็นสังฆทานเหมือนกัน แต่ดีไม่ดีมันน้อยกว่าอย่างนี้ เพราะยุ่งกว่า ดีไม่ดีคนแกงบ้าง คนต้มบ้าง เราไม่ชอบใจก็โมโห ไอ้ตัวโมโหนี่แหล่ะมันตัด ใช่ไหม..?"

ผู้ถาม : "หลวงพ่อคะ ถ้าเรามีพระบูชาเราควรจะหันหน้าไปทางทิศไหนคะ ?"

หลวงพ่อ :"พระบูชาที่นิยมกัน เขาหันหน้าไปทาง ทิศตะวันออกถ้าหันไปทางทิศใต้ กับ ทิศตะวันตก สตางค์ไม่เหลือใช้ ลองดูก็ได้"

ผู้ถาม :"เป็นเพราะเหตุใดคะ ?"

หลวงพ่อ :"อันนี้ฉันไม่รู้ละ รู้แต่ว่าสมัยหลวงพ่อปาน ถ้าลูกศิษย์ท่านหันหน้าพระพุทธไปทาง ทิศตะวันตก หรือ ทิศใต้ ท่านบอกว่าควรหันไปทาง ทิศตะวันออก หรือ ทิศเหนือ

ผู้ถาม :"แล้วอย่างพระพุทธรูปที่บอกว่ายังไม่เบิกพระเนตร หมายความว่าอย่างไรคะ ?

หลวงพ่อ :
"ถ้ายังไม่ เบิกพระเนตรแสดงว่ายังไม่มีลูกตา พระองค์ไหนมีลูกตาแล้วพระองค์นั้นเบิกพระเนตรแล้ว..ใช่ไหม.."(ผู้ถามหัวเราะ)

"ฉันว่ามันเป็นพิธีสมัยก่อนโน้นละมั้ง คือ เขาปั้นพระพุทธรูปแล้วยังไม่ได้ทำลูกตา เลยหาช่างมาทำลูกตามากกว่า เวลานี้ก็เลยเอาวิธีการนั้น พระที่วัดฉันไม่ต้อง เบิกเนตรเห็นท่านมีตาทุกองค์ ใครเขาถามว่า เบิกพระเนตรหรือยัง .. ฉันไม่ทำละ มีแล้วนี่ ควรจะเบิกเนตรเราให้ดีเท่าเนตรท่านดีกว่าใช่ไหม..?"

ผู้ถาม : "แล้วถ้าหากว่าเรามีพระพุทธรูป แต่พระเนตรท่านปิดอย่างนี้ต้องเบิกพระเนตรไหมคะ..?"

หลวงพ่อ :"เอาล่ะซิ ขืนไปเบิกเข้า ตาท่านฉีกแน่ บาป ต่อไปชาติหน้าตาเหลือก"

ผู้ถาม :(หัวเราะ)"คือท่านหลับตานั่งสมาธิค่ะ"

หลวงพ่อ :"เขาทำหลับตาก็ปล่อยให้หลับตา ทำสมาธิก็ต้องหลับตาใช่ไหม.?"

ผู้ถาม :"หลวงพ่อครับ การถวายพระพุทธรูปองค์เล็ก ๆ กับถวายพระประธานองค์ใหญ่ ๆ พระประธานในโบสถ์นะครับ จะมีอานิสงส์เหมือนกัน เหมือนกันหรือเปล่าครับ ..?"

หลวงพ่อ :"เหมือนกัน คือเขียนเหมือนกัน เขียนว่า "อานิสงส์ถวายพระพุทธรูป" .. แต่ว่าเราไปเทียบกันไม่ได้นะ สุดแล้วแต่กำลังใจ ถ้าคนที่เขามีฐานะน้อย เขามีเงินจริง ๆ แค่สร้างพระพุทธรูปขนาด 3 นิ้ว ทำด้วยปูนพลาสเตอร์ แต่ว่ากำลังใจเขามั่นคง ฐานะมันแค่นั้นก็มีอานิสงส์สูง ถือว่าเขาทำดีที่สุดของฐานะอยู่แล้วใช่ไหม...

สร้างพระประธานในโบสถ์ อานิสงส์ก็คือสร้างพระพุทธรูป ถ้าหากว่าเจ้าของคิดว่าสร้างเพื่ออวดชาวบ้าน ก็สู้สร้างองค์เล็ก ๆ ไม่ได้ เพราะคิดด้วยจิตบริสุทธิ์"

ผู้ถาม :"แล้วถวายพระประธานเพื่อแก้บนเล่าครับ คือว่า ลูกชายง่อง ๆ แง่ง ๆ ใจไม่ค่อยดี ก็คิดว่าถ้าหากลูกชายแข็งแรงดี จะถวายพระประธาน ประจำอุโบสถสักองค์หนึ่ง จะแตกต่างกับถวายพระประธานเนื่องในการไม่แก้บนไหมครับ ..?"

หลวงพ่อ :"ต้องดูเจตนาก่อน เราแก้บน แต่ตั้งเจตนาให้ถูกนะ ถือว่าสร้างพระพุทธรูปไว้ในพระพุทธศาสนา เพื่อสักการะของคนและพระ มันจะมีอานิสงส์เหมือนกัน แต่ถ้าคิดว่านี่เพราะลูกเราไม่ตาย เพราะการถวายพระพุทธรูปอย่างนี้อานิสงส์น้อยมาก เพราะมีการแลกเปลี่ยน

เราบนก็จริงแหล่ แต่คิดว่าการสร้างพระพุทธรูปนี่สร้างไว้เป็นที่สักการะของคนและพระเณร ก็ถือว่าเราสร้างไว้ในพระพุทธศาสนา ไม่ถือเป็นการแลกเปลี่ยน ถ้าคิดว่าแก้บน มันเป็นการแลกเปลี่ยน แต่ว่าเราบนไว้จริง แต่ว่าเจตนาเราตั้งไว้อีกหน่อยหนึ่ง"

ผู้ถาม :"เรื่องพระประธานผ่านไป ทีนี้ เรื่องพระแตก มีบางคนเขาบอกว่า ห้อยพระที่แตกหรือหัก ลูกเมียจะทะเลาะกัน พระศุกร์จะเข้า พระเสาร์จะแทรก บางคนถึงขนาดเอาเศียรพระหัก ๆ แตก ๆ ไปไว้ตามต้นโพธิ์ ตามวัด ความจริงเป็นยังไงครับหลวงพ่อ..?"

หลวงพ่อ :"ถ้าจะให้แน่คุณก็ลองห้อยดูก่อน ใครได้พระสมเด็จแตก ๆ มาให้ฉันทีเหอะ ฉันเอาหมด.. ความจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอก มันจะด่ากันเองน่ะ เลยไปโทษพระใช่ไหม..แต่ว่าที่เห็นเขาถือกันก็คือ พระพุทธรูปถ้าชำรุดเขาไม่บูชาไว้ที่บ้าน อันนี้ไม่มีตำรา อาจจะมีประสบการณ์ก็ได้นะ

แต่พวกที่โบราณเขาเขียนบอกไว้ต้องระวังหน่อย บางทีมีประสบการณ์ แต่หาเหตุมาไม่ได้ก็ต้องเชื่อเหมือนกัน อย่างสมัย หลวงพ่อปานถ้าลูกศิษย์ท่านหันหน้า พระพุทธไปทางทิศตะวันตกหรือทิศใต้ อันนี้ไม่มีเรื่องทะเลาะกัน แต่สตางค์ไม่เหลือใช้ ท่านบอกว่าควรหันไปทางทิศตะวันออก หรือ ทิศเหนือ ทีนี้หากว่าเราเห็นว่าชำรุด เราตกแต่งให้ดีก็คงจะดีมั้ง"

ผู้ถาม :"หลวงพ่อขอรับ ได้ทราบว่าหลวงพ่อจะ สร้างแท่นพระสำหรับพระพุทธรูปข้างพระอุโบสถวัดท่าซุงนั้น อยากจะทราบว่า การสร้างแท่นพระมีอานิสงส์อย่างไรขอรับ..?"

หลวงพ่อ :"สร้างแท่นก็เหมือนกับการสร้างพระพุทธรูป คือ แท่นพระพุทธรูปเขาบกพร่องอยู่ เราทำให้เต็มอย่าง นางวิสาขา หรือ พระสิวลี อานิสงส์ไม่ใช่เล็กน้อยนะ อานิสงส์ใหญ่มาก คนจะรวยแล้วนะ วาสนาบารมีจะสูง สร้างแท่นพระ หนุนพระให้สูงน่ะ แล้วพระพุทธเจ้าด้วยนะ เราฐานะก็จะดีขึ้น"

ผู้ถาม :"ดิฉันและน้อง ๆ ได้สร้างพระพุทธรูปปิดทองฝังเพชรขนาด 30 นิ้ว ถวายเป็นพุทธบูชา ไปไว้ที่วัดท่าซุง พอถวายแล้ว หลวงพ่อให้พรว่า "ขอให้รวยทุกคน รวยเท่าพระพุทธเจ้านะลูก" กราบเรียนถามหลวงพ่อว่า รวยเท่าพระพุทธเจ้าเขารวยแบบไหนเจ้าคะ..?"

หลวงพ่อ :"จะเอาแบบไหนล่ะ จะเอาแบบทรัพย์มาก หรือ จะเอาแบบกิเลสหมด..?"

ผู้ถาม :"ตอนนี้เอาทรัพย์ก่อนแล้วกันค่ะ เพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี"

หลวงพ่อ :"พระพุทธเจ้านี่รวยมากเพราะกิเลสหมดนะ คือว่า พระพุทธเจ้าใครบอกไม่มีทรัพย์สินน่ะไม่ถูกหรอก ที่นั่งอยู่ที่นี่ทรัพย์ที่นำมาให้เป็นของพระพุทธเจ้าทั้งหมดนะ ฉันไม่คิดว่าเป็นของฉัน พระพุทธเจ้าเสด็จไปที่ไหนไม่เคยจน อย่างวิหารของนางวิสาขาเขา สร้างราคาเท่าไร ก็รวมความว่า พระพุทธเจ้ามีทรัพย์สินมากราคาเป็นล้าน ๆ โกฏิ เอารวยแบบนั้นก็แล้วกันนะ สวัสดี"

Copyright © 2001 by
Amine
10 ต.ค. 2544 01:29:33