สัมภาษณ์ผู้ฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกำลัง
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10

โดย .. สุนันทา วิทยาสุนทรวงศ์


เมื่อข้าพเจ้าฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลัง

พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสไว้ดีแล้ว เป็นธรรมที่บุคคลผู้ศึกษาปฏิบัติจะพึงเห็นได้ด้วยตนเอง

สามารถปฏิบัติและเห็นผลได้ทุกเมื่อไม่จำกัดเวลา เป็นธรรมที่สามารถเรียกร้องให้ผู้อื่นมาดูได้ว่า "ท่านจงมาดูธรรมนี้เถิด"

เป็นธรรมที่บุคคลควรน้อมเข้ามาใส่ใจ ผู้รู้ธรรมแล้วทั้งหลายจะพึงรูได้เฉพาะตนเองเท่านั้น

ข้าพเจ้าขอบูชายิ่งต่อพระธรรม คำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อพระธรรมนั้นด้วยเศียรเกล้า

( จากคำแปลบทสรรเสริญพระคุณแห่งพระธรรมคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ในหนังสือ สวดมนต์แปล ของวัดจันทาราม (ท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี )

เมื่อข้าพเจ้าได้อ่านคำแปลจากบทสวดมนต์นี้ ข้าพเจ้าไม่แปลกใจเลยว่า บุคคลที่ไม่ได้มโนมยิทธิ ญาณ ๘ และไม่นับถือหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) บุคคลเหล่านี้เคยสนใจและอยากทราบเกี่ยวกับวิชาที่ข้าพเจ้เรียนกรรมฐานกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ด้วยจิตสงเคราะห์ให้บุคคลเหล่านี้ได้ศึกษาธรรมะ ก็เล่าให้ฟังบ้างเป็นบางส่วน ปรากฏว่าบุคคลเหล่านี้กล่าวหาว่าข้าพเจ้าบ้า ประสาทหลอน เขาไม่เชื่อหาว่าเป็นการสะกดจิต ข้าพเจ้าฟังแล้วสงสารบุคคลเหล่านี้มาก แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้

( ประวัติการปฏิบัติกรรมฐานของข้าพเจ้า เคยเขียนไว้ในหนังสือลูกศิษย์บันทึก เล่ม ๓ หน้า ๔๓๖ ข้าพเจ้าจะไม่กล่าวซ้ำอีก )

ข้าพเจ้าได้บวชชีพราหมณ์ ถือศีล ๘ กรรมบถ ๑๐ และถือธุดงค์ ๑ ข้อ คือ ถือการอยู่ในสถานที่ตามที่จัดให้เป็นวัตร คำสมาทานธุดงค์ข้อนี้ว่า เสนาสะนะโลลุปปัง ปฏิกขิปามิ ยะถาสันถะติกังคัง สะมาทิยามิ ตั้งแต่วันที่ ๑๔ - ๑๙ ธันวาคม ๒๕๓๖ ที่ศาลา ๑๒ ไร่ และได้ฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลังในวันที่ ๑๘ - ๑๙ ธันวาคม ๒๕๓๖

เสาร์ที่ ๑๘ ธันวาคมเป็นวันฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลัง เผอิญเป็นวันเสาร์ ๕ ให้ไหว้ครูโดยใช้ ดอกไม้ ๕ สี ธูป ๕ เทียน ๕ และเงินบูชาครู เมื่อทำพิธีไหว้ครูเสร็จ ก็สวมกระดาษปิดหน้าที่เขียนภาษาขอม แปลว่า พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ไว้ ข้าพเจ้านั่งสมาธิภาวนา นะมะพะธะ อยู่สักพักหนึ่ง เลิกภาวนาเริ่มตัดกิเลสและแผ่เมตตาไปจนสุดขอบจักรวาล หลังจากนั้น ข้าพเจ้าก็เห็นหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) กายเป็นพระ พ่อสุดที่รักและสุดบูชาของลูก และพระพุทธเจ้า ซึ่งองค์ใหญ่สูงมาก มีแสงสีเหลืองพุ่งมาที่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารีบอธิษฐานขอให้ทั้ง ๒ พระองค์ ช่วยนำลูกไปวิมานของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันที่พระนิพพานด้วย แล้วข้าพเจ้าก็พุ่งอทิสสมานกายตามไปทันที

เมื่ออยู่หน้าพระพักตร์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ข้าพเจ้าเห็นพระพุทธองค์ทรงแย้มพระโอษฐ์(สีชมพู)น้อย ๆ พระพักตร์ผ่องใสสวยงามมาก ทรงเครื่องชุดพระนิพพาน ไม่มีเพศ สวมชฎาปลายแหลมสูงมากมีดอกบัวตูมตรงส่วนปลาย เสื้อผ้าที่สวมใส่เป็นเพชรเม็ดโต ๆ สีขาว แพรวพราว มีแสงระยิบระยับเป็นประกายพรึกพุ่งออกมารอบพระวรกาย มีรัศมีสีขาว

ข้าพเจ้าเห็นหลวงพ่อฤาษีลิงดำและท่านแม่ทรงชุดพระนิพพาน มีพระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ อยู่รอบพระพุทธองค์ ส่วนตัวข้าพเจ้า หลวงพี่หลายองค์ และเพื่อน ๆ นั่งคุกเข่าอยู่หน้าพระพุทธองค์ อทิสสมานกายเล็กขนาดหัวไม้ขีดไฟ อยู่ใกล้รองพระบาทแก้วปลายงอนของพระประทีปแก้ว เมื่ออยากทราบว่าใครบ้างที่ข้าพเจ้ารู้จักก็จะเห็นหน้าเปลี่ยนไปเหมือนหน้าในเมืองมนุษย์

ข้าพเจ้าต้องการขับจิตให้ใสเป็นประกายพรึก จึงกางแขนออกและหมุนอย่างรวดเร็ว จนอทิสสมานกายใสเป็นประกายพรึก และแยกกายกราบทุกพระองค์ด้วยความเคารพเหนือเศียรเกล้า แผ่เมตตาให้ทุก ๆ พระองค์ เจ้ากรรมนายเวร ญาติพี่น้อง พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ท่านผู้มีพระคุณทั้งหมด พรหม เทวดา ตลอดจนเทวดาที่รักษาชีวิตข้าพเจ้าอยู่ พระยายมราช ท้าวมหาราชทั้ง ๔ พระภูมิเจ้าที่ และสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้จนสุดขอบจักรวาล ให้โมทนาบุญที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญมาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน

ข้าพเจ้ามองดูจิตของข้าพเจ้าซึ่งโตขึ้นและไม่มีขอบ มีประกายพุ่งออกมารอบดวงจิตนั้นเป็นประกายพรึก ข้าพเจ้าอธิษฐานขอพบพระพุทธเจ้า หลวงพ่อ ท่านแม่ ให้ช่วยสงเคราะห์ลูกด้วย โดยให้อทิสสมานกายของข้าพเจ้าเข้าไปอยู่ในจิตของตนเอง และให้จิตของข้าพเจ้าซ้อนเข้าไปในจิตของพระพุทธองค์ซึ่งโตใหญ่มาก กว้าง สบาย รัศมีที่กระจายออกไปกว้างใหญ่ จิตนี้ไม่มีขอบไม่มีช่องว่าง ขาวใสเป็นประกายพรึก

ข้าพเจ้าอธิษฐานขอให้อทิสสมานกายมีจำนวนมากและพุ่งออกไปตามรัศมีของจิตของพระพุทธองค์ และพุ่งอทิสสมานกายออกไปเหนือพระนิพพาน อทิสสมานกายกระจายเต็มไปหมด มองระยิบระยับ มองเห็นพระนิพพานสวยเหลือเกิน เห็นวิมานแก้วเต็มไปหมดนับไม่ถ้วน ระยิบระยับแพรวพราว หาที่เปรียบมิได้ ขนาดของวิมานไม่เท่ากัน หลังคาเป็นชั้น ๆ มีกนกลายเป็นแก้วระยิบระยับ เมื่ออยากทราบว่าเป็นวิมานของใครก็อธิษฐานขอ จะเห็นหน้าของเจ้าของวิมานโผล่ออกมาให้เห็น นอกจากวิมานแล้วก็มีสวนดอกไม้แก้ว สระโบกขรณีซึ่งมีดอกบัวแก้วชูช่อไสว จึงอุทิศส่วนกุศลให้หลวงพ่อ ท่านแม่ หลวงปู่ปาน ที่นำคำสอนของพระพุทธองค์มาถ่ายทอดให้ลูกได้เรียนรู้

แล้วขอให้พระพุทธองค์ หลวงพ่อ ท่านแม่ หลวงปู่ปาน พาไปที่วิมานของข้าพระพุทธเจ้าเอง เห็นวิมานของข้าพเจ้าสวยงามมาก เป็นประกายระยิบระยับ มีสวนดอกไม้แก้ว มีสระโบกขรณี มีดอกบัวชูก้าน ใบ และดอก สวยงามมาก ทุกอย่างเป็นแก้วหมด มีน้ำใส วิมานนั้นไม่มีฝา มีหน้าจั่ว มีกนกลาย สวยงามมาก หลังคาเป็นชั้นมีปลายแหลมสูงขึ้นไป เป็นแก้วระยิบระยับทั้งหลัง เมื่อเข้าไปในวิมาน ก็ทดลองนั่งดูก็มีแท่นมารองรับ พอนอนท่าตะแคงมีหมอนมารองศีรษะ สบายมาก จิตใจโปร่งเบา นี่คือความเป็นทิพย์

พระพุทธเจ้า หลวงพ่อ หลวงปู่ปาน และท่านแม่ก็ประทับอยู่ในวิมานของข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้าแยกกายกราบทุกพระองค์ด้วยความเคารพเหนือเศียรเกล้า และให้อทิสสมานกายหนึ่งเฝ้าอยู่ในวิมาน ส่วนอทิสสมานกายที่แยกออกมา ข้าพเจ้าเห็นแสงพุ่งมาที่วิมานของข้าพเจ้าหลายสาย จึงอธิษฐานขอองค์พระประทีปแก้ว หลวงพ่อ หลวงปู่ปาน ท่านแม่ ช่วยพาลูกไปตามแสงด้วย แล้วพุ่งศีรษะตาม แสงไปสูงมาก เหนือพระนิพพานมองขึ้นไปกว้างไกลและว่างเปล่า แต่เมื่อมองต่ำลงไป เห็นวิมานแก้วระยิบระยับแพรวพราวมากมาย แต่มีวิมานหนึ่งใหญ่ที่สุด มีรั้วกั้น มีสระบัวแก้ว มีสวนดอกไม้แก้วสวยมาก มองดูส่วนสูงที่สุดของวิมานมีแก้วกลมใหญ่มีประกายมาก ระยิบระยับแพรวพราวสะดุดตาที่สุด มองต่ำลงไปเห็นหลวงพ่อหลายรูปและเพื่อน ๆ จึงพุ่งทะลุหลังคาลงไปเห็นหลังคาแยกออก กราบพระพุทธเจ้าองค์ปฐมซึ่งมีพระวรกายใหญ่มาก ตาเหลือบมองหลังคาที่พุ่งลงมาแล้วเห็นดีเหมือนเดิมก็นึกขำ และคิดว่าคราวหน้าไม่เอาหัวพุ่งแล้ว จะเหาะตามแสงดีกว่า

เมื่อแยกกายกราบพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ หลวงพ่อ ท่านแม่ ท่านผู้มีพระคุณทุกพระองค์แล้ว ความซุกซนของจิตก็ขึ้นไปสำรวจวิมานของพระพุทธองค์ เห็นหลังคาเป็นชั้น ๆ มีกนกลาย มีหน้าบัน หน้าจั่ว สวยมาก เสากลมใกล้ ๆ หลังคามีลายกลีบบัวคว่ำ พื้นเป็นลายนูน ๆ เป็นแก้วระยิบระยับทั้งหลัง มีบันไดขึ้นวิมาน ไม่มีฝาวิมาน จะขยายออกตามจำนวนคนที่เข้าไปในวิมาน เห็นสระโบกขรณีจึงขออนุญาตพระพุทธเจ้าองค์ปฐม เหาะไปที่สระ กระโดดน้ำหมุนควงอทิสสมานกายจนเหมือนจักรแก้ว พุ่งจากสระแห่งหนึ่งไปยังอีกสระหนึ่ง จนไปอยู่บนดอกบัวแก้วใหญ่ในสระอีกแห่งหนึ่ง ก็กางแขนออกหมุนกายจนเหมือนแก้วกลม ๆ ที่มีประกายระยิบระยับแพรวพราว พุ่งไปที่วิมานของตนเอง ไปดูว่าอทิสสมานกายที่แยกไว้ยังนั่งอยู่หรือไม่ ปรากฏว่ายังนั่งอยู่ จึงขอบารมีจากหลวงพ่อ ท่านปู่ ท่านย่า เหาะกลับไปที่วิมานขององค์สมเด็จองค์ปฐมอีก ขอนั่งตักของพระพุทธองค์ และกราบที่ตักของพระพุทธองค์ หลังจากนั้นก็เอามือโอบเอวของพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ปรากฏว่าโอบไม่หมด เพระาเอวใหญ่มาก อทิสสมานกายเล็กเหมือนแมลงไปเกาะอยู่

คราวนี้อยากดูนรกแต่ไม่อยากไปจากพระนิพพาน จึงขอบารมีของพระพุทธองค์ หลวงพ่อ ท่านแม่ หลวงปู่ปาน และท่านลุงพุฒ(พระยายม) ให้ช่วยให้มีแสงพุ่งจากพระนิพพานไปยังแดนนรกเพื่อดู สิมพลีนรก ซึ่งอยู่ไกลพระนิพพานมาก เป็นนรกขุมลึกลงไป ขอบเป็นสี่เหลี่ยม ข้างล่างมีไฟซึ่งร้อนแรงมากเผาสัตว์นรกอยู่ สัตว์นรกเปลือยกลาย กำลังปีนต้นงิ้ว หนามที่แหลมคมเหมือนสปริงพุ่งแทงทะลุร่างกายเลือดไหล มีนายนิริยบาลตาแดงนุ่งผ้าแดงเอาหอกแทง เมื่อสัตว์นรกตกลงมา หมาดำตัวใหญ่เขี้ยวยาวตะกายต้นงิ้ว ไล่กัดสัตว์นรกให้ปีนขึ้นไปใหม่ ข้างบนมีอีกาปากเหล็กสีดำจิกตีสัตว์นรกตกลงมา ก็โดนหมาดำและนายนิริยบาลไล่ให้ขึ้นไปใหม่ ทรมานเช่นนี้จนกว่าจะหมดกรรม

ข้าพเจ้าขอระลึกชาติในอดีต โดยขอบารมีพระพุทธองค์ หลวงพ่อ ท่านแม่ ช่วยสงเคราะห์ลูกดูว่า ข้าพเจ้าเคยเป็นสัตว์นรกขุมนี้หรือไม่พระพุทธเจ้าข้า ปรากฏว่าเคยเป็นทั้งสัตว์นรกและนายนิริยบาล มองไกลออกไปและขอบารมีทุกพระองค์ให้ช่วยสงเคราะห์ให้ข้าพระพุทธเจ้าเห็น โลกันตนรก ที่นี่เป็นถ้ำ มีธารน้ำกรดอยู่ข้างล่าง มืดและหนาวมาก สัตว์นรกตาแดง ผอม ๆ ไม่สวมเสื้อผ้า ปีนป่ายอยู่ที่ขอบ ๆ ถ้ำ สัตว์นรกพบกันก็จะกัดกันแล้วตกลงไปในน้ำกรด ตัวสัตว์นรกจะละลาย แล้วสักครู่ก็เกิดใหม่ คำว่าตาย ไม่มี ถูกทรมานอยู่อย่างนั้นเอง ถัดไปก็เป็นโลกันตนรกที่มีแสงแดงร้อนแรงมาก เผาสัตว์นรกตัวแดง ดูแล้วสงสารจึงเลิกดู เพราะกว่าจะหมดกรรม นานเหลือเกิน

ไปเที่ยวดูอนันตจักรวาลดีกว่า จึงขอบารมีองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว หลวงพ่อ ท่านแม่ เหาะพุ่งออกไปจากพระนิพพาน ไกลมากแล้ว พุ่งสูงเหนือจักรวาลทั้งหมด มากมายเหลือที่จะนับได้ แต่ละจักรวาลก็คล้าย ๆ สุริยจักรวาล ระหว่างจักรวาลมีขอบเขตกั้น ดูแล้วแปลกดี เหาะเข้าไปใกล้ ๆ พระอาทิตย์ เห็นแสงที่พุ่งออกมาจากดวงอาทิตย์ อยู่รอบ ๆ ดวงอาทิตย์ ลองเอาเท้าเหยียบดวงอาทิตย์ดู เนื่องจากเป็นอทิสสมานกายจึงไม่รู้สึกร้อน มองดูโลกมนุษย์ซึ่งมัว ๆ ไม่สวย ไม่มีประกาย อยู่ห่างไกลจากพระนิพพานมาก

เห็นกายหยาบที่วัดท่าซุงก็แสนจะเบื่อหน่ายที่มีแต่ความทุกข์ เพราะมีการเจ็บป่วย มีความแก่ ปวดเมื่อยขา สักวันหนึ่งมันก็ต้องตาย เจ้าร่างกายที่ไม่สวยงามเจ้าจงขึ้นมาแล้วตายให้ข้าพเจ้าดูหน่อยซิ ตายหนึ่งวันก็เขียว ๆ แดง ๆ ซีด ๆ เริ่มพองแล้ว ๒ วัน ๓ วัน ๔ วัน ๕ วัน ก็พองมากขึ้น มีหนอนมาชอนไช ลิ้นจุกปาก ตายแล้วร่างกายมันเริ่มแตกออก มีน้ำเลือดน้ำเหลือง น้ำสกปรกไหลออกมา พอนานวันเข้าก็แห้งหลุดออกไปมีแต่โครงกระดูก ต่อมา ๒ - ๓๐๐ ปี ก็แตกสลายหายไป ในที่สุดก็ไม่เหลืออะไรเลย นอกจากอทิสสมานกายที่นั่งมองอยู่เท่านั้นที่ยังอยู่ แสดงว่าร่างกายของมนุษย์ตายแต่อทิสสมานกายไม่ตาย

คราวนี้ขอบารมีพระพุทธองค์ หลวงพ่อ ท่านแม่ หลวงปู่ปาน ให้ช่วยสงเคราะห์ให้เห็นพระจุฬามณีเจดียสถาน ซึ่งอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สวยงามมาก เป็นแก้วหกประการ รอบ ๆ พระเจดีย์มีระเบียง และบันได มีท่านพี่มเหสักขา เฝ้าประตูทางเข้า มีเทวดานางฟ้า มากมาย หนุ่ม ๆ สาว ๆ ทั้งนั้น ไม่มีเทวดานางฟ้า แก่ ๆ เห็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง กำลังสอนธรรมะอยู่บนแท่นแก้ว ทรงนั่งห้อยพระบาท มีดอกบัวแก้วรองรับพระบาท สวมชฎาปลายแหลมสูงมาก มีดอกบัวแก้วอยู่ตรงส่วนปลาย มีฉัพพรรณรังสีออกมาจากรอบพระวรกาย มองดู พระเขี้ยวแก้ว ขนาดใหญ่ ดูแพรวพราวสวยงามมาก พระเมาลีอยู่ในผอบสีแก้วเหมือนเส้นไหม

เมื่ออธิษฐานถามว่าเป็นของพระพุทธเจ้าพระองค์ใด ก็ปรากฏพระวรกายยืนลอยเหนือพระเขี้ยวแก้วและพระเมาลี ข้าพเจ้าอธิษฐานขอพระพุทธองค์สงเคราะห์ให้ดูเมื่อนางฟ้าเทวดาเวียนเทียน ก็เห็นนางฟ้า เทวดาแต่งชุดขาวพื้นเป็นสีทอง รัศมีกายน้อยกว่าพรหม ผู้หญิงมีพระบังแผ่นหลังใหญ่ เดินเข้าแถวเวียนรอบระเบียงแก้ว มือพนม ดอกไม้แก้วก็ผุดออกมาเองที่มือ และมีแสงพุ่งออกมาจากปลายนิ้วสวยงามมาก มองสวรรค์ทั้งหมดเป็นเนินแบ่งเป็นหกเขต หกแดน ส่วนรูปพรหมแบ่งเป็นชั้น ๆ ซ้อน ๆ กัน มี ๑๖ ชั้น มีอรูปพรหม ๔ ชั้น (อยู่คนละที่กับรูปพรหม)

พรหม เทวดา นางฟ้า มีความสุขก็จริง แต่เมื่อหมดบุญก็ต้องกลับไปทุกข์อีก มนุษย์เป็นดินแดนแห่งความทุกข์ สัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน ก็ทุกข์ ไม่มีอะไรดีเลย ข้าพเจ้าไม่ต้องการ ถ้าตายเมื่อใดขอติดตามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน หลวงพ่อ ท่านแม่ มาอยู่ที่พระนิพพานจุดเดียว ขอองค์สมเด็จพระประทีปแก้วทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ ท่านพ่อ ท่านแม่ และท่านพี่ทุกพระองค์ ครูบาอาจารย์ ท่านผู้มีพระคุณทั้งหมด ตลอดจนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ก่อนลูกจะสิ้นใจตายวันใด ขอทุกพระองค์ได้โปรดมารับลูกไปยังวิมานขององค์สมเด็จพระประทีปแก้วองค์ปัจจุบันที่พระนิพพานด้วยเถิด เพื่อจะได้สิ้นทุกข์ และอยู่ในวิมานของลูกเองที่พระนิพพาน

" รู้จักวางให้หมด แล้วจะสุขนิรันดร "

สรุป การฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลังนี้ ไม่เหมือนครึ่งกำลัง เพราะชัดเจนแจ่มใสมาก ต้องได้เฉพาะตนเอง หมายความว่าไม่สามารถบอกให้ผู้อื่นเข้าใจได้ว่า ชัดเจนแจ่มใสขนาดไหน นอกจากปฏิบัติเองแล้วเห็นผลเอง เปรียบเหมือนคนกินเกลือที่เค็มไม่สามารถบอกได้ว่า รสเค็มอย่างไร นอกจากกินเอง จึงจะรู้ได้เอง ว่าเกลือนั้นเค็มอย่างไร

สุนันทา วิทยาสุนทรวงศ์
พยาบาลวิชาชีพ ๖
โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม
จังหวัดนครปฐม

กลับหน้า 6ไปหน้า 8Copyright © 2001 by
Amine
9 ต.ค. 2545 07:32:18