อาลัยหลวงพ่อปาน..2

1 2 3 4 5 6 7 8

มาเรื่องลูกศิษย์ของหลวงพ่อปานก็เหมือนกัน เห็นภาพหน้าปกเป็นรูปหลวงพ่อปาน หนังสือประวัติของหลวงพ่อปานร้อยปีเห็นภาพนั้นแล้วรู้สึกสลดใจ ไม่ทราบว่าใครซึ่งมีความจงรักภักดีหลวงพ่อปานเป็นพิเศษ เอาภาพที่ขัดต่อพระธรรมวินัยขององค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์มาโชว์เข้าไว้ ถ้าจะพูดเป็นภาษาไทยก็บอกว่า ประจานครูบาอาจารย์ของตัวเอง อันนี้น่าสลดใจอย่างยิ่ง

ตอนนี้อาตมาก็ขอตัด ถ้าหากว่าเรื่องนี้จะเป็นหนังสือ ก็จะขอตัดเอาตอนปลาย ขึ้นปลายก่อนแล้วก็ย้อนลงไปทางต้น ด้วยว่าอาตมานี้เป็นคนชอบอ่านหนังสือ และชอบอ่านตอนจบก่อนเพราะอยากจะรู้เรื่อง ตอนนี้อาตมาก็จะขอพูดภาวะตอนปลายชีวิตของหลวงพ่อปาน

หลวงพ่อปานเคยตาย หรือว่า เกือบตายมาแล้ว ๒ วาระ เมื่อถึงวาระที่ ๓ จึงได้ตายจริง ๆ เรื่องนี้ปรากฏมาในสมัยที่อาตมาอยู่กับท่าน ก็ได้ทราบเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับท่าน เป็นเกร็ดความรู้มากมาย แต่ทว่าจะมีใครจำได้หรือว่า ไม่จำ ก็ไม่ทราบแต่ก็มีหลายคนเหมือนกันที่อาตมาจำได้ แล้วเมื่อกลับไปพบกันได้ถามเขาว่าเรื่องที่หลวงพ่อปานพูดน่ะ จำได้ไหม เวลานี้ก็ยังมีชีวิตอยู่ และเวลานั้นก็รู้สึกว่า ท่านทั้งหลายเหล่านั้นก็เป็นผู้เด่นกว่าอาตมามาก เพราะว่าหนึ่ง ท่านบวชก่อน สอง ความรู้ทางปริยัติท่านก็มาก สาม ความเฉลียวฉลาดในตัวท่านก็มากมาย แต่ทว่าเมื่อไปถามเกร็ดความรู้ที่หลวงพ่อปานเล่าให้ฟัง กลับบอกว่าจำไม่ได้ นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย เรื่องของความเข้าใจและการจดจำย่อมไม่เสมอกัน

อาตมาจะย้อนลงไปเมื่อสมัยหลวงพ่อปานอายุ ๓๘ ปี ถึงแม้หลวงพ่อปานจะเป็นผู้มีความดีประกอบไปด้วยความเมตตาปราณีแก่บรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลายอย่างยิ่งก็ตาม แต่ขึ้นชื่อว่า กฎของกรรมนะ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ วันหนึ่ง หลวงพ่อปานไปที่วัดประตูสาร จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งวัดนี้อยู่ทางฝั่งตะวันตกของจังหวัดสุพรรณเป็นต้นทางที่ไปวัดป่าเลไลยในสมัยนั้น ท่านบอกว่าเวลาเข้าห้องน้ำเสียท่าคนร้ายเขาบังฟันเอา คำว่า บังฟัน นี่เป็นวิชาหนึ่งเป็นวิทยาคม เขาฟันวัตถุแต่แผลมันปรากฏในร่างกายของเรา แต่ทว่าด้านผิวหนังภายนอกไม่ปรากฏรอยแผล จัดว่าเป็นอันตรายหนัก ทั้งถูกที่อก เมื่อถูกแล้วหลวงพ่อปานก็ล้มลงไป มีอาการหนักมาก แต่ว่าสติสัมปชัญญะของท่านยังสมบูรณ์

สมัยนั้นเรือยนต์กลไฟมันก็ยังไม่ค่อยจะมีบรรดาท่านพุทธบริษัท ว่ากันถึงเรือยนต์ รถยนต์ไม่ต้องพูดถึงกันในต่างจังหวัดและก็ในชนบทอย่างนั้น ไม่ต้องหารถยนต์กันเพราะว่าทางรถมันมีน้อย วิ่งในระยะสั้น ๆ และก็เรือยนต์สมัยนั้นก็หายาก หลวงพ่อปานเวลาไปไหนก็ใช้เรือสัมปันนี มีเก็ง ทาสีขาวทั้งลำ มีคนแจวหัวแจวท้าย คนแจวเรือของท่านก็แจวประเภทถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง ไปแบบสบาย ๆ แต่ว่าในขณะนั้น หลวงพ่อปานมีอาการใกล้ปางตาย ทุกคนก็พากันนำหลวงพ่อปานกลับวัด เพราะว่าท่านขอร้องให้ทุกคนพาท่านกลับวัด เมื่อเรือเคลื่อนมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี บรรดาท่านพุทธบริษัท แม้จะรีบประการใดก็ดี ถ้าจะถึงอำเภอบางปลาม้าคือประตูน้ำบางยี่หน ก็ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า ๖ ชั่วโมง นี่อย่างรีบ แล้วประตูน้ำในสมัยนั้นกว่าจะเปิดให้แต่ะคราว วันหนึ่งเปิดสามครั้งเท่านั้น ถ้ามาไม่ทันเวลาเขาเปิดตามปกติ เขาก็จะยังไม่เปิดให้ ต้องจอดเรือคอยอยู่ก่อน อากาศหรือก็แสนร้อน อาการทางร่างกายของท่าน ถ้าเป็นเราก็คงกระสับกระส่ายมาก แต่ทว่าหลวงพ่อปานท่านมีอาการปกติ นอนเฉย คุมสติสัมปชัญญะได้ดีมาก เข้าใจว่าอาการของท่านหนักมาก ท่านจึงบอกให้คนเรือแวะเข้าไปที่วัดบางซ้ายใน



เวลานั้นท่านสมภารยวงกำลังเป็นเจ้าอาวาส อายุเห็นจะเป็นรุ่นราวคราวเดียวกัน จะแก่อ่อนกว่ากันก็ไม่มากนัก ครั้นขึ้นไปก็อาศัยศาลาน้ำนอนอยู่ อาการของท่านเพียบหนัก ทุกคนในที่นั้นแจ้งว่าหลวงพ่อปานสลบไป แต่ตามความรู้สึกของอาตมว่าไม่สลบ คำว่าสลบนี้อาตมาไม่เข้าใจเหมือนกันแต่ว่าอาการแบบนั้นเหมือนกับตาย เป็นอาการที่จิตเคลื่อนออกจากกายของท่าน เวลาที่ท่านคุยให้ฟังก็มีสภาพแบบนั้นนะบรรดาท่านพุทธบริษัท ขณะที่ท่านคุยให้ฟังท่านก็บอกว่า ฉันไม่ได้สลบ จิตวิญญาณมันออกจากร่างฉัน จิตที่ออกจากร่างมีสภาพเป็นกาย เดินออกไปในอากาศ เดินออกไปได้พักหนึ่ง ไกลแสนไกล ในขณะนั้นใกล้จะถึงจุดหมายปลายทาง เพราะเห็นสภาพของอาคารลิบ ๆ อยู่ข้างหน้า แพรวพราวเป็นระยิบระยับเป็นสง่าสวยสดงดงามมาก ท่านก็ตั้งใจไปสู่อาคารหลังนั้น แต่มันยังไกลอยู่ เวลากาลของสาวกขององค์สมเด็จพระบรมครูยังไม่ถึงคาดบรรดาท่านพุทธบริษัท ปรากฏว่าขณะนั้นเสียงเรียกขึ้นว่า


ท่านปาน ท่านปาน หยุดก่อน หลวงพ่อปานบอกว่าเวลานั้นท่านจึงหันหน้ามาดู เห็นองค์สมเด็จพระบรมครูยืนงามสง่ามีรัศมีกายแผ่สร้านออกมาทั้งหกสี เราก็เรียกกันว่าพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์กล่าวว่า คุณปาน คุณยังไปไม่ได้ ภาระใหญ่ของคุณยังมีมาก วัดวาอารามคุณยังสร้างไม่เสร็จและกิจอื่นที่คุณต้องทำยังมีอยู่ จงกลับไปปฏิบัติงานให้เสร็จสิ้นเสียก่อนจึงจะไปได้ สถานที่อันนี้ไซร้ไม่เป็นไร เธอมีโอกาสจะมีอยู่ได้แน่นอน พอสิ้นเสียงขององค์สมเด็จพระชินวร ปรากฏว่า จิตวิญญาณเข้าร่างพอดี หลวงพ่อปานก็ลืมตาขึ้น ทุกคนก็ดีใจ

ขณะที่หลวงพ่อปานเล่าให้ฟัง ก็มีท่นาผู้ใหญ่คนอาวุโสท่านหนึ่งนั่งอยู่ใกล้ ๆ ท่านไปกับหลวงพ่อปานด้วย ท่านบอกว่าเวลานั้นหลวงพ่อปานสลบไปประมาณ ๖ - ๗ ชั่วโมง คนทุกคนพากันร้องไห้เสียดายหลวงพ่อปาน คิดว่าเวลานี้หลวงพ่อปานมรณภาพเสียแล้ว ชื่อว่าเราเสียกำลังใจที่เป็นแก้ว กล่าวคือ ตู้พระธรรมที่สำคัญ เพราะว่าบุคคลที่จะสงเคราะห์บรรดาประชาชนทั้งหลายและภิกษุ สามเณรในสถานที่ต่าง ๆ ในการสั่งสอนธรรมะก็ดี สร้างศาลาการเปรียญ ที่อยู่ที่อาศัย อาหารการบริโภค ให้เกิดกับบรรดาภิกษุสงฆ์ทั้งหลายก็ดี ที่ทำเป็นสาธารณประโยชน์อย่างหลวงพ่อปานนี้ ไม่มีอีกแล้ว เขาเสียใจกันมาก

เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัท พูดมาประมาณ ๓๐ นาที คอมันก็ไม่ค่อยดี ขอพักเสียงสักหน่อยในขณะนี้ก็ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย โปรดฟังเพลงมอญต่อไป เพื่อเป็นการพักเสียงอาตมาสักครู่หนึ่ง

ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย เสียงเพลงที่ได้จบไป เป็นเพลงคั่นเสียงคอ ทั้งนี้ก็เพราะว่าคอไม่ดี มาคุยกันเรื่องหลวงพ่อปานมรณภาพเพราะว่าถูกอันตราย ก็พอดีเสียงของคนพูดนี่ก็จะมีสภาพแบบเดียวกัน และเวลานี้ก็มีอายุไล่เลี่ยกันกับหลวงพ่อปานขณะมรณภาพ หลวงพ่อปานมรณภาพเมื่ออายุ ๖๔ ปี เวลานี้อาตมาก็ใกล้เข้าไปเต็มทีแล้วบรรดาท่านพุทธบริษัท ( ขณะบันทึกเสียงนี้เป็นเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ ) มรณภัยคืบคลานเข้ามาเล่นงานอาตมาอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ปีนี้ต้องใช้น้ำเกลือเกินกว่า ๒๐,๐๐๐ ซี.ซี. เป็นอันว่าชีวิตอาตมาอยู่ได้เพราะยาเท่านั้น เมื่อมาพูดถึงเวลาการมรณภาพของหลวงพ่อปานวาระแรก ก็มาคิดถึงตัวเองว่า ครูบาอาจารย์ซึ่งมีความดี มีพระคุณใหญ่เวลานี้ท่านมรณภาพไปแล้ว อาตมาเองก็กำลังจะตามไป แต่ทว่าไหน ๆ ก็ยังมีลมปราณอยู่ ก็จะขอเทิดทูนคุณงามความดีของครูด้วยชีวิต ทั้งนี้เพราะอะไร ก็เพราะว่าคำสั่งถือว่าเป็นคำสั่ง คำสอนคำแนะนำก็จำไว้ได้ทุกอย่าง สิ่งที่หลวงพ่อปานพยากรณ์ไว้นะบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ไม่มีอะไรผิดพลาดเลย จำมาได้ทุกอย่างและก็ตรงทุกอย่าง

ฉะนั้น หลวงพ่อปานมีคุณความดีแก่บรรดาประชาชนทั้งหลายไม่จำกัดชั้นวรรณะ ไม่จำกัดหมู่บุคคลซึ่งเป็นความดีเหลือล้นที่อาตมาจะติดตามได้ ท่านก็ยังเป็นพระที่ประสบเคราะห์กรรมร้ายคือถูกบังฟัน สำหรับอาตมานี้นั้นซึ่งมีบุญวาสนาบารมีไม่เทียบเคียงหลวงพ่อปานได้ แล้วเหตุร้ายเหล่านี้จะไม่มีแก่อาตมาหรือ นี่อาตมาคิดเสมอบรรดาท่านพุทธบริษัท คิดเสมอว่าเหตุร้ายมันต้องมี แต่ถือว่าเป็นกฎของกรรม เราสร้างความดีมา ความดีก็สนองให้ได้ดี ถ้าเราทำความชั่ว ความชั่วก็สนองให้เดือดร้อน แต่เวลานี้อาตมาเป็นคนใจด้านเสียแล้ว บรรดาท่านพุทธบริษัท ขึ้นชื่อว่าทุกข์ภัยใด ๆ ไม่มีความรู้สึก ถือว่ามันเป็นกฎธรรมดา เมื่อความเกิดมีขึ้น ความแก่มันก็ตามมา ความพลัดพรากจากของรักของชอบใจมันก็ตามมา และความตายในที่สุดมันก็ตามมาทีหลัง การที่เราจะตักน้ำไปรดหัวตอให้มันซึมเข้าไปข้างในย่อมเป็นไปไม่ได้ฉันใด เราจะทำบุญทำกุศลประการใดก็ดีที่จะลบล้างความชั่วเดิมของเรานี้มันย่อมเป็นไปไม่ได้ฉันนั้น ฉะนั้นถ้าหากว่ากรรมอันใดที่จะมาย่ำยีด้วยเหตุใดก็ตาม อาตมาก็นึกเสมอว่า นั่นมันเป็นอกุศลกรรมเดิมันให้ผล ที่เราเป็นคนไม่ดีสร้างความชั่วเข้าไว้ เหตุร้ายมันจึงได้สนองแบบนี้ ที่พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าใครเขากลั่นแกล้งนะ ไม่ใช่อย่างนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ต้องให้น้ำเกลือเกินกว่า ๒๐,๐๐๐ ซี.ซี. ก็ได้แก่โรคภัยไข้เจ็บมารบกวน กรรมอันนี้อาตมาทราบว่าเป็นโทษของปาณาติบาต ฉะนั้นขอบรรดาท่านพุทธบริษัทที่มีความเคารพในพระพุทธเจ้า และมีความไม่ประมาทในชีวิต จงอย่าคิดทำลายทำร้ายร่างกายบุคคลและสัตว์ กรรมที่เป็นอกุศลจะสนองผลให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างอาตมา แต่เวลานี้อาตมาปล่อยให้กายมันเดือดร้อนเท่านั้น ใจไม่ยอมด้วยแล้ว เพราะใจมันด้านเสียเต็มที จำคำว่า พุทโธ ธัมโม สังโฆ ที่หลวงพ่อปานผู้ทรงความดีท่านสอนไว้ เวลานี้จำได้ขึ้นใจแล้วบรรดาท่านพุทธบริษัท เพราะว่าคุณความดีขององค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาค ทำให้ใจสบาย

กลับไปหน้าที่ ๑อ่านหน้าที่ ๓Copyright © 2001 by
Amine
5 มี.ค. 2546 21:26:37